Last updated: 14 Jan 2021 | 2846 Views |
อากาศหนาวแบบนี้เปลี่ยนบรรยากาศจากห้องพักสี่เหลี่ยมในโรงแรม-รีสอร์ท ออกไปกอดธรรมชาติสีเขียว นอนกางเต้นท์ใต้แสงดาว เคล้าสายหมอกยามเช้ากันดีกว่า เราเลยคัด 5 สถานที่จุดกางเต้นท์ทั่วไทยเอามาไว้ให้คุณผู้ชมโดยเฉพาะ จะมีที่ไหนกันบ้างนั้นเราไปดูกันเลยค่า
ขอบคุณรูปภาพจาก : travel.kapook.com
1. ภูทับเบิก ( เพชรบูรณ์ )
จุดกางเต็นท์สุดฮ็อตที่มหาชนหลั่งไหลไปกางเต็นท์แคมป์ปิ้งท่ามกลางวิวเขาและไร่กะหล่ำปลี ไฮไลท์ของที่นี่คือทะเลหมอกที่มีให้ชมเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ปลายฤดูฝนไปจนถึงต้นหนาว ใครอยากลุ้นทะเลหมอกขาวๆ มาที่ภูทับเบิกรับรองไม่ผิดหวังแน่นอนโดยจุดกางเต็นท์ที่ภูทับเบิกมีให้เลือกหลายจุด ทั้งในรีสอร์ทของเอกชนและของชาวบ้านในพื้นที่ หากใครยังได้วิวทะเลหมอกสวยๆ แบบไม่มีอะไรบดบัง แนะนำไปกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ซึ่งเป็นของชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบไม่มีอะไรบดบัง แนะนำไปกางเต็นท์ที่ลานกางเต็นท์ วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก ซึ่งเป็นของชุมชน มีสิ่งอำนวยความสะดวกอีกด้วย
เวลาเปิด-ปิด ทำการ 06:00-20:00
ขอบคุณรูปภาพจาก : travel.mthai.com
2. ดอยเสมอดาว ( น่าน )
หนึ่งในสถานที่สำหรับดูดาวสวยที่สุดในเมืองไทยต้องยกให้ที่นี่ “ดอยเสมอดาว” โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่เราจะได้นอนกางเต็นท์ดูดาวที่อยู่ใกล้ราวกับจะเอื้อมมือคว้าหรือใครเป็นสายถ่ายรูปก็กางขาตั้งกล้องถ่ายรูปหมู่ดาวและตามล่าทางช้างเผือกสวยๆ ในตอนกลางคืนแล้ว เรายังจะได้ตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกยามเช้า ท่ามกลางวิวขุนเขาและลำน้ำน่านอีกด้วย สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ดอยเสมอดาวมีห้องน้ำสะอาดและลานจอดรถให้พอเพียงกับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าใครอยากไปนอนกางเต็นท์ ช่วงวันหยุดเทศกาลแนะนำจองล่วงหน้า และบนที่ทำการอุทยานฯ ไม่มีร้านสวัสดิการขายอาหารแนะนำให้เตรียมเสบียงไปเองนะค่า
เวลาเปิด-ปิดทำการ ในเวลา 09.00-16.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก : travel.mthai.com
3. จุดชมวิวม่อนสน ( เชียงใหม่ )
ลานกางเต็นท์และจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่งดงามบนดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าสนบนเนินเขาสูงหรือในภาษาเหนือเรียกว่า “ม่อน” สมชื่อ ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์ดูพระอาทิตย์ขึ้นและลุ้นทะเลหมอก ท่ามกลางวิว 180 องศา ใครมาเที่ยวดอยอ่างขางสามารถแวะมาถ่ายรูปหรือจะค้างคืนที่นี่ด้วยก็ได้ บริเวณลานกางเต็นท์ มีทั้งร้านค้าร้านกาแฟและร้านอาหารให้บริการ พร้อมลานจอดรถกว้างขวางสะดวกสบาย กางเต็นท์พักที่นี่แล้วยังสามารถขับรถไปเที่ยวไร่สตอรว์เบอร์รี่-ไร่ชาและสวนดอกไม้ในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางที่อยู่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย
เปิดให้บริการทุกวันเวลา 08.00 -16.30 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก : mgronline.com
4. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ( กาญจนบุรี )
ใครอยากไปกางเต็นท์นอนฟังเสียงน้ำตก โยนของขึ้นรถแล้วไปปักหมุดกางเต็นท์กันได้เลยที่ “น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น” นอกจากได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่ยังมีลานกางเต็นท์บรรยากาศดี โดยลานกางเต็นท์จะอยู่ที่น้ำตกชั้น 4 “ฉัตรแก้ว” ซึ่งเป็นชั้นที่เป็นไฮไลท์และสวยที่สุดในบรรดาน้ำตกทั้งหมด 7 ชั้นของน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จอดรถเดินไม่ถึง 200 เมตร ก็ถึงแล้ว โดยจะอยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยาน บริเวณด้านข้างลานกางเต็นท์ ซึ่งเป็นสนามหญ้าสีเขียวมองเห็นจุดชมวิวเขื่อนศรีนครินทร์ที่สวยงามอีกด้วย
เปิดทำการเวลา 06.00-18.00 น.
ขอบคุณรูปภาพจาก : thayu.go.th
5. จุดชมวิวเสม็ดนางชี ( พังงา )
ใครไปเที่ยวภาคใต้ฝั่งอันดามัน แล้วมองหาจุดกางเต็นท์วิวปังๆ แบบอลังการไม่แพ้ภาคเหนือล่ะก็ ขอแนะนำที่นี่ “จุดชมวิวเสม็ดนางชี” จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสุดอันซีนเหนืออ่าวพังงา ท่ามกลางเทือกเขาหินปูนรายล้อม พร้อมยังมีกิจกรรมให้ทำระหว่างวันอย่างการไปล่องเรือ เที่ยวถ้ำ พายเรือแคนู ดูวิถีชาวประมงในชุมชนที่อยู่รอบๆที่นี่มีจุดชมวิวอยู่ 2 จุด คือจุดแรกอยู่ในเสม็ดนางชี บูทีค รีสอร์ท อีกจุดหนึ่งอยู่บนยอดเขาที่สูงขึ้นไป ไม่สามารถนำรถขึ้นไปได้ ต้องจอดรถไว้ด้านล่างแล้วใช้บริการรถกระบะโฟร์วีลของชาวบ้าน หรือใครฟิตจะเดินขึ้นไปเองก็ได้ระยะทางประมาณ 1 กม.
เปิด-ปิดทำการ : 07.00-21.00 น.