เมื่อวันที่ 13 – 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปแสวงบุญ ณ สักการะสถาน พระมารดาแห่งมรณสักขีแห่งประเทศไทยมาค่ะ สักการสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสองคอน ต.โป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหารค่ะ ซึ่งที่นี่จะมีการจัดงานฉลองทุกปี ปีละสองครั้งในวันที่ 22 ตุลาคม และวันที่ 16 ธันวาคม ของทุกปี แต่ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ไปร่วมงาน การจัดงานเฉลิมฉลองจึงเป็นวันเสาร์ที่ใกล้กับทั้งสองวันค่ะ ทุกครั้งที่มีการฉลอง ก็จะมีผู้คนทั้งคริสตชนและผู้นับถือต่างศาสนามาร่วมพิธีกันอย่างเนืองแน่นไปหมด ทุกคนต่างร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สรรเสริญบุญราศี และวอนขอพระพรโดยอาศัยคำเสนอวิงวอนของบุญราศีในสิ่งที่ตนปรารถนา
สักการะสถานแห่งนี้ มีชื่อเดิมคือ “วัดแม่พระไถ่ทาส” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เป็นบริเวณที่กว้างขวางและเงียบสงบ ตัวโบสถ์ถูกล้อมด้วยกำแพงโค้งที่สร้างจากศิลาทรายธรรมชาติ สร้างขึ้นเพื่อเทิดเกียรติบุญราศีมรณสักขีชาวไทยทั้ง 7 ท่าน ที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในศาสนาเมื่อสมัยเกิดกรณีพิพาทไทย-ฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในระยะนั้น ผู้คนแถบนี้จะศรัทธาและนับถือศาสนาคริสต์กันเป็นจำนวนมาก และเนื่องด้วยบาทหลวงส่วนใหญ่เป็นชาวฝรั่งเศส ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดคิดว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของฝรั่งเศส และมองผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ว่าเป็นพวกเดียวกับฝรั่งเศส ทางการจึงมีคำสั่งให้ชาวบ้านเลิกนับถือ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ยอมรับว่าจะเลิก แต่ก็ยังคงแอบนับถือกันอย่างลับๆ
ภายในกำแพงโค้งนี้ เป็นประติมากรรมภาพนูน 14 ภาพ บอกเล่าถึงเรื่องราวของบุญราศีทั้ง 7 ท่าน ซึ่งถือเป็นประวัติที่แสดงให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น ตั้งแต่ที่มีการประชุมชาวบ้านสองคอนให้ละทิ้งศาสนา ไปจนถึงเหตุการณ์ที่บุญราศีทั้ง 7 ท่านถูกสังหารค่ะ
เดินเข้ามาถึงหน้าตัวโบสถ์ ก็จะพบประติมากรรมภาพนูนดังเช่นที่กำแพงทางเข้า แต่ทางหน้าโบสถ์นี้ จะบอกเล่าเรื่องราวชีวประวัติโดยย่อของบุญราศีทั้ง 7 ท่าน เรียงตามเสาทางเข้าด้านหน้าตัวโบสถ์ด้วยค่ะ ซึ่งภายในโบสถ์มีลักษณะโล่งโปร่งและกว้างใหญ่ รองรับคนได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียวค่ะ
เมื่อเดินเข้ามาด้านหลังของพระแท่นภายในโบสถ์ จะเป็นที่บรรจุพระธาตุ (อัฐิ) ของบุญราศีทั้ง 7 ภายใต้โลงแก้วอันสวยงาม โดยมีการสร้างเป็นหุ่นขี้ผึ้งจำลองไว้ในโลงแก้วด้วยค่ะ เมื่อมองผ่านกระจกใสเหนือโลงแก้วออกไป จะเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงและริมฝั่งประเทศลาว ซึ่งห้องบรรจุพระธาตุนี้ จะมีผู้แสวงบุญเข้ามาแวะเวียนสักการะขอพรเป็นจำนวนมากทุกปีอย่างไม่ขาดสายค่ะ โดยจะมีการถวายดอกกุหลาบ 7 ดอก (1 ดอกต่อ 1 ท่าน) เรียกว่าพอถึงช่วงแสวงบุญเนี่ย บริเวณโลงแก้วนี้จะเต็มไปด้วยดอกกุหลาบที่ถูกนำมาถวายอย่างสวยงามเต็มไปหมดดังเช่นที่เห็นในภาพนี้แหละค่ะ
ถัดออกมาทางขวามือของที่บรรจุพระธาตุ บริเวณริมแม่น้ำโขง จะเป็นที่ตั้งของยุ้งข้าว และบ้านพักซิสเตอร์ทั้งสองที่ท่านได้อาศัยเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ค่ะ โดยมีการรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพเดิม ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นเรือนอนุรักษ์ เพื่อเป็นการระลึกถึงท่านทั้งสองด้วย
และเมื่อเดินออกมาทางขวามือของสักการสถานก็จะพบกับประติมากรรมลอยตัวของบุญราศีทั้ง 7 ท่านตั้งอยู่ริมน้ำค่ะ และ ณ ที่แห่งนี้ ก็จะมีผู้แสวงบุญมากราบไหว้ขอพรเป็นประจำตลอดปีค่ะ เนื่องด้วยบริเวณนี้มีบรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ ชาวบ้านในละแวกนั้นยังใช้ที่แห่งนี้เป็นที่สำหรับสวดภาวนาด้วยค่ะ เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยก็จะพบกับบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือที่เรียกว่า "บ่อน้ำมาร์ตีร์" ซึ่งคำว่า "มาร์ตีร์" น้ัน มีความหมายคือ"คริสตชนที่ถูกฆ่า หรือถูกลงโทษให้ประหารชีวิตเพราะความเชื่อในศาสนา" บ่อน้ำนี้ก็คือบ่อน้ำที่ชาวบ้านสองคอนและเหล่ามรณสักขีได้ใช้เมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่นั่นเองค่ะ ซึ่งในสมัยก่อนก็จะมีผู้แสงบุญจำนวนมากมาดื่มน้ำและใช้น้ำในบ่อนี้ ด้วยมีความเชื่อที่ว่าจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บและเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ชีวิตค่ะ แต่ในปัจจุบันนี้ ทางสักการสถานไม่อนุญาตให้ใช้น้ำในบ่อนี้โดยตรงเพราะอาจจะสกปรกและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงมีการบรรจุน้ำใหม่เป็นน้ำสะอาดใส่ขวด สามารถดื่มได้ ซึ่งขอรับได้ ณ จุดจำหน่ายของที่ระลึกค่ะ อ้อ! แล้วอย่าลืมหยอดเงินทำบุญกันตามกำลังศรัทธาด้วยนะคะ
เรามาชมฝั่งตรงข้ามกันบ้างดีกว่าค่ะ อีกฝั่งของรูปปั้นลอยตัวนั้น เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย จะเป็นที่ตั้งของ "ป่าศักดิ์สิทธิ์" หรือ "สุสาน" นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นบริเวณที่ตำรวจใช้เป็นที่สังหารเหล่ามรณสักขี และฝังไว้ที่นี่ค่ะ ปัจจุบันมีการสร้างฐานบริเวณหลุมฝังศพของเหล่ามรณสักขีให้สูงขึ้น โดยที่ยังจัดวางหลุมฝังให้อยู่ในตำแหน่งเดิมทุกประการ ผู้คนจำนวนมากใช้ป่าศักดิ์สิทธิ์นี้เป็นอีกหนึ่งสถานที่สำหรับสวดภาวนา และสวดอ้อนวอนบุญราศีเพื่อให้ประทานพระพรตามที่ตนขอค่ะ โดยในช่วงงานฉลอง ก็จะมีการจุดเทียนรอบๆหลุมฝังศพด้วยค่ะ เมื่อดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ป่าศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะสว่างไสวไปด้วยแสงเทียนแห่งศรัทธานับพันๆเล่มที่เหล่าผู้แสวงบุญนำมาจุดถวาย เป็นภาพที่สวยงามและประทับใจมากค่ะ
สำหรับท่านที่สนใจ อยากชมความงามของโบสถ์อันซีนริมฝั่งโขงที่เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และความศรัทธาของชาวบ้านคาทอลิกสองคอนแห่งนี้ สามารถเข้าชมและสักการะได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00 น. - 12.00 น. และเวลา 13.00 น. - 17.00 น. ค่ะ
การเดินทาง จากตัวเมืองมุกดาหารมาตามทางหลวงหมายเลข 212 (หนองคาย-อุบลฯ) ไปทางจังหวัดนครพนมประมาณ 21 กิโลเมตร แยกขวาที่สามแยกบ้านคำป่าหลาย (เข้าสู่ถนนทางหลวงชนบท มห.3010 บ.คำป่าหลาย-หว้านใหญ่) ประมาณ 7.5 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกหว้านใหญ่ (เข้าสู่ถนนทางหลวงชนบท มห.4004 หว้านใหญ่-สองคอน) ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ตัวโบสถ์วัดสองคอนจะอยู่ริมน้ำฝั่งขวามือ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขต 5 หมายเลขโทรศัพท์ 0 4232 5406 และ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยว (Call Center) 1147 หรือที่ วัดสองคอน โทรศัพท์ 0 4269 9066, 0 4269 9077
ขอขอบคุณข้อมูลการเดินทางจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยค่ะ
เรื่องและภาพโดย : เพลง Paradise Inter Tour