ห้ามพลาด แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโกเบที่ไปเช็คอิน

Last updated: 22 ธ.ค. 2566 | 3434 จำนวนผู้เข้าชม |

ห้ามพลาด แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโกเบที่ไปเช็คอิน

โกเบ (Kobe) แค่ได้ยินชื่อก็นึกถึงเนื้ออย่างบนเตาหอมๆ โกเบเมืองท่าที่เดินทางมาได้ง่ายๆ จากโอซาก้าและเกียวโต แต่ละย่านของเมืองโกเบก็มีจุดเด่นในแบบของตัวเอง ทั้งช้อปปิ้ง ธรรมชาติ บรรยากาศแบบเมืองเก่า และออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น ยังมีสถานที่ให้ตามเช็คอินอีกมากมาย ตามไปดูกันเลย

1. โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower)

เช็คอินแลนด์มาร์คของโกเบที่ โกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ (Kobe Port Tower) เป็นสัญลักษณ์ของโกเบที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองโกเบ เป็นอาคารชมวิวสีแดงตั้งอยู่ริมทะเล ตัวหอคอยมีความสูง 180 เมตร ด้านในมีทั้งหมด 5 ชั้น ด้านบนสุดจะเป็นจุดชมวิวเมืองโกเบได้แบบ 360 องศา พอตกกลางคืน แสงไฟตามอาคารบ้านเรือนก็จะส่องระยิบระยับในยามค่ำ ยิ่งดูสวยโรแมนติกขึ้นไปอีก

2. โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ ( Kobe Harborland )

ฝั่งตรงข้ามโกเบ พอร์ท ทาวเวอร์ จะเป็นที่ตั้งของ โกเบ ฮาร์เบอร์แลนด์ (Kobe Harborland) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังใกล้ๆ กับ ท่าเรือโกเบ (Kobe Habor) ที่รวมเอาแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Umie และ MOSAIC, พิพิธภัณฑ์เด็กอังปังแมน โกเบ (Kobe Anpanman Children’s Museum) และร้านอร่อยมาไว้ในที่เดียว แถม ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ (Mosaic Ferris Wheel) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวสำคัญของเมืองท่าโกเบ เรียกว่าเป็นสถานที่เดตสุดโรแมนติกแห่งหนึ่งเลยค่ะ

3. หมู่บ้านนานาชาติคิตาโนะ อิจินคัง ( Kitano Ijinkan )

เนื่องจากเป็นเมืองท่าเก่าแก่ของประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้มีชาวต่างชาติมาอาศัยอยู่ในเมืองนี้อยู่มากพอสมควร จึงไม่แปลกหากเราจะได้พบกับ หมู่บ้านนานาชาติคิตาโนะ อิจินคัง (Kitano Ijinkan) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่มีการเปิดท่าเรือโกเบเมื่อปี ค.ศ. 1868 ค่ะ อิจินคัง (Ijinkan) เป็นชื่อเรียกบ้านเรือนที่ชาวต่างชาติเคยอาศัยอยู่ในสมัยนั้น ซึ่งไฮไลท์ของหมู่บ้านนี้ก็คือ อาคารคาซามิโดริ (Kazamidori Hall) คฤหาสน์เก่าแก่สไตล์เยอรมันที่สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1909 ปัจจุบันได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ผู้คนเข้าไปถ่ายรูปสวยๆ

4. ศาลเจ้าอิคุตะ ( Ikuta Shrine )

ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟซันโนมิยะ ก็จะพบกับ ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta Shrine) ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 1,800 ปี ที่ขึ้นชื่อทั้งการขอพรเรื่องความรักและความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากเป็นที่สถิตของ เทพวาคาฮิรุเมะ โน มิโคโตะ เทพเจ้าแห่งสิ่งทอที่เชื่อว่าสามารถสานสัมพันธ์และความรักระหว่างผู้คน จึงทำให้มีผู้คนมากมายไปขอเนื้อคู่และสมหวังกับความรักกันหลายรายเลยค่ะ

5. ย่านนันกินมาจิ ไชน่าทาวน์ ( Nankinmachi )

นอกจากอาคารสไตล์ตะวันตกแล้ว โกเบยังมีไชน่าทาวน์แห่งเดียวในคันไซอย่าง ย่านนันกินมาจิ (Nankinmachi) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีนที่มาตั้งถิ่นฐานในญี่ปุ่นนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1868 เป็นต้นมา บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์จีน ร้านค้าขายของกินและวัตถุดิบจากจีน ไหนจะคาเฟ่ ร้านอาหาร และภัตตาคาจีนให้เลือกสรรอีกมากมาย

6. สวนสมุนไพรนูโนะบิกิ ( Nunobiki Herb Gardens )

กระเช้าลอยฟ้าชินโกเบ (Shin-Kobe Ropeway) ขึ้นไปชมธรรมชาติสวยๆ ที่ สวนสมุนไพรนูโนบิกิ (Nunobiki Herb Gardens) กันบ้างดีกว่า เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงสมุนไพรทั้งแบบกลางแจ้งและเรือนกระจกกว่า 7,000 สายพันธุ์ รวมถึงดอกไม้นานาชนิดที่บานสะพรั่งตามฤดูกาล แถมยังมีจุดชมวิวสวยๆ และคาเฟ่น่ารักๆ เสิร์ฟชา เครื่องดื่มที่ทำจากสมุนไพรในสวนด้วย เหมาะสุดๆ สำหรับคนที่รักธรรมชาติและความเงียบสงบไม่วุ่นวายค่ะ

7. อาริมะออนเซ็น ( Arima Onsen )

เดินทางไป อาริมะ ออนเซ็น (Arima Onsen) แหล่งน้ำพุร้อนสำคัญของ เทือกเขารอคโกะ (Mount Rokko) ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปี ความพิเศษของน้ำแร่ที่นี่คือจะมีแร่ธาตุสำคัญ 5 ชนิดซึ่งมีสรรพคุณในการรักษาบรรเทาอาการเจ็บป่วยและปวดเมื่อย อีกทั้งยังบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งและสุขภาพดีอีกด้วย รอบๆ เมืองเต็มไปด้วยรีสอร์ทแบบเรียวกังให้เราไปสัมผัสความเป็นญี่ปุ่นแบบแท้ๆ เป็นที่แวะพักระหว่างการเดินทางได้อย่างดี

8. สวนสัตว์โกเบ ( Kobe Animal Kingdom )

ขอเอาใจคนรักสัตว์กันบ้าง Kobe Animal Kingdom สวนสัตว์แห่งเมืองโกเบที่พร้อมพาทุกคนไปพบกับความน่ารักของน้องๆ บรรยากาศรอบๆ สวนสัตว์โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ให้น้องๆ ได้รู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างแท้จริง พวกเราสามารถไปให้อาหารน้องๆ ได้ค่ะ สามารถใกล้ชิดสัตว์ต่างๆได้เพราะน้องๆทุกตัวคุ้นชินกับคนมากๆและมีเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเวลา แต่ต้องทำตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยของเราและน้องๆ ด้วย